Chachoengsao
Phraya Sri Sunthorn Voharn Monument (Noi Ajarnrayangoon) The philosopher of Thai language. He is the nobleman of King Rama V. He had designed many Thai Language books.
Wat Sothornwararamworaviharn or Wat Hong is the oldest temple in Chachoengsao. It was build in late Krung Sri Ayudhaya time. There is the famous Buddha in this temple, “Luang Por Sothorn”. This Buddha was the symbol of Chachoengsao.
Chachoengsao Fortification. It was located at Marupong road. It was constructed in King Rama III time. There are many cannons on the wall. These fortification used to be the base for fighting against the Angyee rebel.
Suan Somdej Phra Sri Nakaring Chachoengsao. It was located in front of the province main hall. This garden have the big lake in the central of the park. It is the place for people recreation.
Chao Mae Guan Im Loy Nam. This God Guan Im figure was created from ceramic. It was located at Suppakij road. It was found in 1997 around Bangpakong bridge.
Khao Hin Sorn. It is the small hill. Its attractiveness is Many thousands
The west part of the province is the low river plain of the Bang Pa Kong River, which is used extensively for farming rice. To the east is more hilly terrain, with an average height of more than 100 m above sea level.
วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2550
วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2550
Printer
เครื่องถ่ายเอกสาร
ความหมายและความสำคัญ
เครื่องถ่ายเอกสารมีวิวัฒนาการจากระบบการใช้กล้องถ่ายภาพ จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1959 Chester Carlson นักกฎหมายชาวอเมริกัน ได้คิดประดิษฐ์เครื่องถ่ายเอกสารขึ้นมาเป็นเครื่องแรกได้สำเร็จจนเป็นเครื่องถ่ายเอกสารที่มีประสิทธิภาพ เครื่องถ่ายเอกสารเป็นเครื่องใช้สำนักงานที่ได้รับความนิยมและมีความจำเป็นต่อหน่วยงานเป็นอันมากในด้านการทำสำเนาเอกสารให้มีความชัดเจน สามารถทำสำเนาได้เหมือนกับต้นฉบับมากที่สุด
ก่อนใช้เครื่องต้องศึกษาราละเอียดของเครื่องถ่ายเอกสารที่มีอยู่ในสำนักงานเพราะมีอยู่มากมาย หลายรุ่น หลายแบบ โดยดูจากคูมือประจำเครื่อง เครื่องถ่ายเอกสารที่มีทั้งแบบถ่ายเอกสารธรรมดาและแบบย่อขยาย มีทั้งชนิดสีขาว-ดำ และสีธรรมชาติ ซึ่งได้รับการพัฒนาให้ทันสมัยอยู่เสมอ
ประโยชน์ของเครื่องถ่ายเอกสาร
1. มีความสะดวกรวดเร็ว
2. มีการทำสำเนาที่มีความชัดเจน
3. เกิดความประหยัดเวลา
4. ประหยัดค่าใช้จ่าย
5. ไม่ต้องพิมพ์เอกสารที่เหมือนกันทุกประการ
6. งานที่พิมพ์ไว้และได้แก้ไขแล้วจะไม่ปรากฏรอยให้เห็น
7. ทำสำเนาได้โดยไม่จำกัดจำนวน
8. มีวิธีการผลิตที่ง่าย
9. ถ่ายเอกสารที่เป็นรูปได
ขันตอนการถ่ายเอกสาร
1. วางต้นฉบับที่จะถ่ายเอกสารคว่ำหน้าลงบนแผ่นกระจกของเครื่องถ่ายเอกสาร
2. กดปุ่มเลือกขนาดของขนาดของกระดาษที่ต้องการเป็นสำเนา
3. หากต้องการสำเนามากกว่า 1 ฉบับให้กดปุ่มตัวเลขเลือกจำนวนสำเนาที่ต้องการ
4. กดปุ่มถ่ายเพื่อให้ได้สำเนาตามที่ต้องการ
5. ก่อนการใช้เครื่องถ่ายเอกสาร ผู้ใช้ควรศึกษารายละเอียด วิธีใช้และคำแนะนำต่าง ๆ จากคู่มือของเครื่อง และทำตามคำแนะนำของเครื่อง
6. การติดตั้งเครื่องถ่ายเอกสาร ไม่ควรตั้งในที่ที่มีฝุ่นมาก ๆ เพราะจำทำให้ฝุ่นเข้าไปในเครื่องทำให้เกิดการขัดข้อง
7. การใช้เครื่องถ่ายเอกสาร มักจะมีการนำเอารวดเย็บกระดาษมาใช้เย็บกระดาษที่ถ่ายเอกสารจึงควรระวังรวดเย็บกระดาษจะตกเข้าไปในเครื่อง
8. ควรตรวจดูผงหมึกให้มีปริมาณเพียงพอในการใช้งาน
9. กระดาษที่นำมาใช้ถ่ายเอกสารจะต้องไม่มีความชื้น เพราะหากกระดาษมีความชื้นจะทำให้สำเนาที่ได้ไม่มีคุณภาพ
10. ปิดสวิตซ์ไฟหลังจากเลิกใช้งาน ไม่ควรเปิดเครื่องทิ้งไว้หากไม่ได้ใช้งาน เพราะจะทำให้เครื่องร้อน
11. ใช้ผ้าคลุมเครื่องเพื่อป้องกันฝุ่นละอองเข้าเครื่อง
12. ควรคลี่กระดาษก่อนเข้าเครื่องและไม่ใสกระดาษลงไปในถาดป้อนกระดาษ เกินขีดจำกัดเพื่อป้องกันไม่ให้กระดาษติด
การถ่ายเอการแบบอัตโนมัติ
1. ให้ตรวจดุไฟบอกหน้าที่การถ่ายเอกสารแบบอัตโนมัติว่าอู่ในตำแหน่งเปิดความเข้มจะปรับเองโดยอัตโนมัติตามคุณภาพ และความเข้มของต้นฉบับเอกสาร
2. ปรับการถ่ายเอกสารด้วยความคมชัดในแบบการใช้ระบบควบคุมการถ่ายเอกสารแบบอัตโนมัติหากสีของต้นฉบับเข้มเกินไปหรือออ่อนเกินไปในเวลาการใช้ระบบควบคุมการถ่ายเอกสารอัตโนมัติโดยปรับความชัดดังนี้ กดปุ่มการใช้ตามโปรแกรม อักษร E จะปรากฏในช่องบอกสำเนา กดปุ่มหมายเลข 7 ขนาดการตั้งความเข้มในการถ่ายเอกสารนี้ จะเป็นตัวเลขกระพริบในช่องไฟบอกความเข้ม ตั้งเพิ่มหรือลดโดยกดปุ่มปรับความเข้ม ยิ่งค่าสูงขึ้นเท่าใด ความเข้มของสีเท่านั้นตัวเลขค่ายิ่งจะลดลงเท่าใด
3. การควบคุมด้วยมือ กดปุ่ม เปิด/ปิด ของระบบควบคุมความเข้มอัตโนมัติ ให้ไฟบอกระดับความเข้มอัตโนมัติอยู่ในตำแหน่งปิด ตั้งความเข้มหรือลดโดยกดปุ่มปรับความเข้ม การตั้งนั้นเลขยิ่งใหญ่ขึ้นสำเนาถ่ายจะมีความเข้มจางลง เลขยิ่งเล็กลง สำเนาถ่ายจะมีความเข้มขึ้น
4. ตั้งจำนวนสำเนาที่ต้องการ ตั้งสำเนาที่ต้องการด้วยการกดปุ่มตัวเลข ซึ่งจำนวนสำเนาที่ต้องการจะปรากฏบนช่องนับจำนวนให้เห็น
5. ในกรณีที่กดเลขผิดให้กดปุ่มเคลียร์/สต็อป จากนั้นกดปุ่มตัวเลขที่ถูกต้อง
6. เริ่มถ่ายเอกสาร กดปุ่มพิมพ์ เครื่องจะเริ่มถ่ายเอกสาร เครื่องจะนับสำเนาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ครั้งละหนึ่งตามจำนวนที่ถ่าย จำนวนสำเนาที่ตั้งไว้จะปรากฏที่ช่องนับสำเนา ในขณะกดปุ่มพิมพ์เพื่อที่การถ่ายเอกสารเป็นจำนวนมาก เมื่อต้องการให้เครื่องหยุดกลางคัน ในระหว่างการถ่ายเอกสารหลายฉบับ ให้กดปุ่มเคลียร์
การถ่ายเอกสารที่มีต้นฉบับใหญ่
1. การถ่ายหนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ หนังสือขนาดใหญ่ และเอกสาร เปิดแผ่นยึด ต้นฉบับขึ้น ยกไปทางด้านซ้าย จากนั้นยกขึ้นเพื่อให้หลุดออกมา
2. ถ่ายสำเนา หลังจากนั้นใส่แผ่นยึดต้นฉบับกลับคืน โดยเลือกคาสเซ็ทอัตโนมัติ ดูว่าไฟแสดงระบบการถ่ายด้วยมืออยู่ใน OFF ตำแหน่งเปิด เมื่อว่างต้นฉบับแล้วและเมื่อแผ่นยึดต้นฉบับปิดลงแล้ว จะมีการเลือกคาสเซ็ทที่มีขนาดเดี่ยวกับต้นฉบับ และจะมีดวงไฟแสดงให้ทราบ นอกจากนั้นสามารถจะเปลี่ยนขนาดต้นฉบับด้วยมือ ถ้าดวงไฟกระพริบแสดงขนาดของเซ็ทหรือดวงไฟให้เปลี่ยนคาสเซ็ทที่สว่างขึ้นมา แสดงว่ามิได้ใส่คาสเซ็ท
การถ่ายเอกสารที่เป็นการถ่ายสำเนาลบ
1. การถ่ายสำเนาขนาด B6 หรือ A6 ฟิล์ม OHP กระดาษลอกลาย สลากและอื่น ๆ ให้ป้อนเข้าไปที่ละแผ่น
2. แผ่นขนาดต่างกันใส่เข้าไปเวลาเดี่ยวกันไม่ได้
3. สอดกระดาษเข้าไปให้ตรง เพื่อป้องกันไม่ให้ติดกัน
การถ่ายโดยใช้เอกสารด้วยมือ
1. กดปุ่มแบบการใช้แบบถ่ายเอกสารด้วยมือ ให้ไฟบอกแบบการใช้แบบถ่ายเอกสารด้วยมือ
2. เลื่อนขนาดกระดาษโดยกดปุ่มขนาดของกระดาษ
การถ่ายเอกสารขยายส่วนที่ต้องการ
1. กดปุ่มถ่ายขยายจนกว่าเลขที่ต้องการปรากฏขึ้นที่ไฟบอกขนาดการย่อ/ขยาย
2. เลือกขนาดกระดาษโดยการกดปุ่มถาดกระดาษ
การดูแลรักษา
การบำรุงรักษาเครื่องถ่ายเอกสารเพื่อให้เครื่องถ่ายเอกสารมีประสิทธิภาพในการใช้งานเป็นเวลานาน ควรปฏิบัติดังนี้
ทุกเดือน ก่อนทำความสะอาดหรือทำการซ่อมแซมบำรุงรักษาใด ๆ จะต้องปิดสวิทช์หลักไปที่ตำแหน่งปิด (ศูนย์) แล้วปฏิบัติดังนี้
1. ทำความสะอาดฝาคอบต้นฉบับและกระจกโดยเปิดฝาคอบต้นฉบับ และใช้ผ้านุ่ม ที แอลกอฮอล์เช็ดด้านใต้ของฝาปิดและเช็ดต้นฉบับ
2. เวลาเช็ดอย่าใช้ทินเนอร์หรือสารทำลายอื่น ๆ
3. ทำความสะอาดชาร์จเจอร์หลักด้วยอุปกรณ์ทำความสะอาดชาร์จเจอร์ โดยระวังอย่า ให้เส้นลวดของชาร์จเจอร์หลักขาดเป็นอันขาด
4. ตั้งเครื่องในตำแหน่งที่อุณหภูมิไม่ร้อนหรือไม่ชื้นจนเกินไป
5. ทำความสะอาดตัวเครื่องด้านนอกด้วยแอลกอฮอล์ให้สะอาด
6.ไม่เปิด-ปิดเครื่องบ่อย ๆ ควรเตรียมเอกสารที่จะถ่ายให้พร้อมในครั้งเดียว
7. รอให้เครื่องคลายความร้อน ปิดสวิทช์ ถอดปลั๊ก แล้วใช้ผ้าคลุมเครื่องทุกครั้ง
ความหมายและความสำคัญ
เครื่องถ่ายเอกสารมีวิวัฒนาการจากระบบการใช้กล้องถ่ายภาพ จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1959 Chester Carlson นักกฎหมายชาวอเมริกัน ได้คิดประดิษฐ์เครื่องถ่ายเอกสารขึ้นมาเป็นเครื่องแรกได้สำเร็จจนเป็นเครื่องถ่ายเอกสารที่มีประสิทธิภาพ เครื่องถ่ายเอกสารเป็นเครื่องใช้สำนักงานที่ได้รับความนิยมและมีความจำเป็นต่อหน่วยงานเป็นอันมากในด้านการทำสำเนาเอกสารให้มีความชัดเจน สามารถทำสำเนาได้เหมือนกับต้นฉบับมากที่สุด
ก่อนใช้เครื่องต้องศึกษาราละเอียดของเครื่องถ่ายเอกสารที่มีอยู่ในสำนักงานเพราะมีอยู่มากมาย หลายรุ่น หลายแบบ โดยดูจากคูมือประจำเครื่อง เครื่องถ่ายเอกสารที่มีทั้งแบบถ่ายเอกสารธรรมดาและแบบย่อขยาย มีทั้งชนิดสีขาว-ดำ และสีธรรมชาติ ซึ่งได้รับการพัฒนาให้ทันสมัยอยู่เสมอ
ประโยชน์ของเครื่องถ่ายเอกสาร
1. มีความสะดวกรวดเร็ว
2. มีการทำสำเนาที่มีความชัดเจน
3. เกิดความประหยัดเวลา
4. ประหยัดค่าใช้จ่าย
5. ไม่ต้องพิมพ์เอกสารที่เหมือนกันทุกประการ
6. งานที่พิมพ์ไว้และได้แก้ไขแล้วจะไม่ปรากฏรอยให้เห็น
7. ทำสำเนาได้โดยไม่จำกัดจำนวน
8. มีวิธีการผลิตที่ง่าย
9. ถ่ายเอกสารที่เป็นรูปได
ขันตอนการถ่ายเอกสาร
1. วางต้นฉบับที่จะถ่ายเอกสารคว่ำหน้าลงบนแผ่นกระจกของเครื่องถ่ายเอกสาร
2. กดปุ่มเลือกขนาดของขนาดของกระดาษที่ต้องการเป็นสำเนา
3. หากต้องการสำเนามากกว่า 1 ฉบับให้กดปุ่มตัวเลขเลือกจำนวนสำเนาที่ต้องการ
4. กดปุ่มถ่ายเพื่อให้ได้สำเนาตามที่ต้องการ
5. ก่อนการใช้เครื่องถ่ายเอกสาร ผู้ใช้ควรศึกษารายละเอียด วิธีใช้และคำแนะนำต่าง ๆ จากคู่มือของเครื่อง และทำตามคำแนะนำของเครื่อง
6. การติดตั้งเครื่องถ่ายเอกสาร ไม่ควรตั้งในที่ที่มีฝุ่นมาก ๆ เพราะจำทำให้ฝุ่นเข้าไปในเครื่องทำให้เกิดการขัดข้อง
7. การใช้เครื่องถ่ายเอกสาร มักจะมีการนำเอารวดเย็บกระดาษมาใช้เย็บกระดาษที่ถ่ายเอกสารจึงควรระวังรวดเย็บกระดาษจะตกเข้าไปในเครื่อง
8. ควรตรวจดูผงหมึกให้มีปริมาณเพียงพอในการใช้งาน
9. กระดาษที่นำมาใช้ถ่ายเอกสารจะต้องไม่มีความชื้น เพราะหากกระดาษมีความชื้นจะทำให้สำเนาที่ได้ไม่มีคุณภาพ
10. ปิดสวิตซ์ไฟหลังจากเลิกใช้งาน ไม่ควรเปิดเครื่องทิ้งไว้หากไม่ได้ใช้งาน เพราะจะทำให้เครื่องร้อน
11. ใช้ผ้าคลุมเครื่องเพื่อป้องกันฝุ่นละอองเข้าเครื่อง
12. ควรคลี่กระดาษก่อนเข้าเครื่องและไม่ใสกระดาษลงไปในถาดป้อนกระดาษ เกินขีดจำกัดเพื่อป้องกันไม่ให้กระดาษติด
การถ่ายเอการแบบอัตโนมัติ
1. ให้ตรวจดุไฟบอกหน้าที่การถ่ายเอกสารแบบอัตโนมัติว่าอู่ในตำแหน่งเปิดความเข้มจะปรับเองโดยอัตโนมัติตามคุณภาพ และความเข้มของต้นฉบับเอกสาร
2. ปรับการถ่ายเอกสารด้วยความคมชัดในแบบการใช้ระบบควบคุมการถ่ายเอกสารแบบอัตโนมัติหากสีของต้นฉบับเข้มเกินไปหรือออ่อนเกินไปในเวลาการใช้ระบบควบคุมการถ่ายเอกสารอัตโนมัติโดยปรับความชัดดังนี้ กดปุ่มการใช้ตามโปรแกรม อักษร E จะปรากฏในช่องบอกสำเนา กดปุ่มหมายเลข 7 ขนาดการตั้งความเข้มในการถ่ายเอกสารนี้ จะเป็นตัวเลขกระพริบในช่องไฟบอกความเข้ม ตั้งเพิ่มหรือลดโดยกดปุ่มปรับความเข้ม ยิ่งค่าสูงขึ้นเท่าใด ความเข้มของสีเท่านั้นตัวเลขค่ายิ่งจะลดลงเท่าใด
3. การควบคุมด้วยมือ กดปุ่ม เปิด/ปิด ของระบบควบคุมความเข้มอัตโนมัติ ให้ไฟบอกระดับความเข้มอัตโนมัติอยู่ในตำแหน่งปิด ตั้งความเข้มหรือลดโดยกดปุ่มปรับความเข้ม การตั้งนั้นเลขยิ่งใหญ่ขึ้นสำเนาถ่ายจะมีความเข้มจางลง เลขยิ่งเล็กลง สำเนาถ่ายจะมีความเข้มขึ้น
4. ตั้งจำนวนสำเนาที่ต้องการ ตั้งสำเนาที่ต้องการด้วยการกดปุ่มตัวเลข ซึ่งจำนวนสำเนาที่ต้องการจะปรากฏบนช่องนับจำนวนให้เห็น
5. ในกรณีที่กดเลขผิดให้กดปุ่มเคลียร์/สต็อป จากนั้นกดปุ่มตัวเลขที่ถูกต้อง
6. เริ่มถ่ายเอกสาร กดปุ่มพิมพ์ เครื่องจะเริ่มถ่ายเอกสาร เครื่องจะนับสำเนาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ครั้งละหนึ่งตามจำนวนที่ถ่าย จำนวนสำเนาที่ตั้งไว้จะปรากฏที่ช่องนับสำเนา ในขณะกดปุ่มพิมพ์เพื่อที่การถ่ายเอกสารเป็นจำนวนมาก เมื่อต้องการให้เครื่องหยุดกลางคัน ในระหว่างการถ่ายเอกสารหลายฉบับ ให้กดปุ่มเคลียร์
การถ่ายเอกสารที่มีต้นฉบับใหญ่
1. การถ่ายหนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ หนังสือขนาดใหญ่ และเอกสาร เปิดแผ่นยึด ต้นฉบับขึ้น ยกไปทางด้านซ้าย จากนั้นยกขึ้นเพื่อให้หลุดออกมา
2. ถ่ายสำเนา หลังจากนั้นใส่แผ่นยึดต้นฉบับกลับคืน โดยเลือกคาสเซ็ทอัตโนมัติ ดูว่าไฟแสดงระบบการถ่ายด้วยมืออยู่ใน OFF ตำแหน่งเปิด เมื่อว่างต้นฉบับแล้วและเมื่อแผ่นยึดต้นฉบับปิดลงแล้ว จะมีการเลือกคาสเซ็ทที่มีขนาดเดี่ยวกับต้นฉบับ และจะมีดวงไฟแสดงให้ทราบ นอกจากนั้นสามารถจะเปลี่ยนขนาดต้นฉบับด้วยมือ ถ้าดวงไฟกระพริบแสดงขนาดของเซ็ทหรือดวงไฟให้เปลี่ยนคาสเซ็ทที่สว่างขึ้นมา แสดงว่ามิได้ใส่คาสเซ็ท
การถ่ายเอกสารที่เป็นการถ่ายสำเนาลบ
1. การถ่ายสำเนาขนาด B6 หรือ A6 ฟิล์ม OHP กระดาษลอกลาย สลากและอื่น ๆ ให้ป้อนเข้าไปที่ละแผ่น
2. แผ่นขนาดต่างกันใส่เข้าไปเวลาเดี่ยวกันไม่ได้
3. สอดกระดาษเข้าไปให้ตรง เพื่อป้องกันไม่ให้ติดกัน
การถ่ายโดยใช้เอกสารด้วยมือ
1. กดปุ่มแบบการใช้แบบถ่ายเอกสารด้วยมือ ให้ไฟบอกแบบการใช้แบบถ่ายเอกสารด้วยมือ
2. เลื่อนขนาดกระดาษโดยกดปุ่มขนาดของกระดาษ
การถ่ายเอกสารขยายส่วนที่ต้องการ
1. กดปุ่มถ่ายขยายจนกว่าเลขที่ต้องการปรากฏขึ้นที่ไฟบอกขนาดการย่อ/ขยาย
2. เลือกขนาดกระดาษโดยการกดปุ่มถาดกระดาษ
การดูแลรักษา
การบำรุงรักษาเครื่องถ่ายเอกสารเพื่อให้เครื่องถ่ายเอกสารมีประสิทธิภาพในการใช้งานเป็นเวลานาน ควรปฏิบัติดังนี้
ทุกเดือน ก่อนทำความสะอาดหรือทำการซ่อมแซมบำรุงรักษาใด ๆ จะต้องปิดสวิทช์หลักไปที่ตำแหน่งปิด (ศูนย์) แล้วปฏิบัติดังนี้
1. ทำความสะอาดฝาคอบต้นฉบับและกระจกโดยเปิดฝาคอบต้นฉบับ และใช้ผ้านุ่ม ที แอลกอฮอล์เช็ดด้านใต้ของฝาปิดและเช็ดต้นฉบับ
2. เวลาเช็ดอย่าใช้ทินเนอร์หรือสารทำลายอื่น ๆ
3. ทำความสะอาดชาร์จเจอร์หลักด้วยอุปกรณ์ทำความสะอาดชาร์จเจอร์ โดยระวังอย่า ให้เส้นลวดของชาร์จเจอร์หลักขาดเป็นอันขาด
4. ตั้งเครื่องในตำแหน่งที่อุณหภูมิไม่ร้อนหรือไม่ชื้นจนเกินไป
5. ทำความสะอาดตัวเครื่องด้านนอกด้วยแอลกอฮอล์ให้สะอาด
6.ไม่เปิด-ปิดเครื่องบ่อย ๆ ควรเตรียมเอกสารที่จะถ่ายให้พร้อมในครั้งเดียว
7. รอให้เครื่องคลายความร้อน ปิดสวิทช์ ถอดปลั๊ก แล้วใช้ผ้าคลุมเครื่องทุกครั้ง
COMPUTER
คอมพิวเตอร์
1. ความหมายและความสำคัญของเครื่องคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ คือ เครื่องมือที่ทันสมัยที่พัฒนาโดยมนุษย์เพื่อช่วยงานของมนุษย์งานเหล่านี้มักเป็นงานที่มีข้นตอนซ้ำ มีปริมาณมาก หรือมีลักษณะสลับซับซ้อนยากเย็นและต้องใช้แรงงานคนมากมาย เมื่อนำคอมพิวเตอร์มาจัดการงานลักษณะดังกล่าว ก็สามารถทำให้งานเสร็จได้รวดเร็ว มีผลลัพธ์ถูกต้องน่าเชื่อถือแรงงานของมนุษย์ผ่อนเบาลงทำให้มีเวลามากขึ้นเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องใช้สำนักงานที่นิยมมากที่สุด และได้เขามามีบทบาทในชีวิตประจำของมนุษย์มากขึ้น เนื่องจากเครื่องคอมพิวเตอร์ได้รับการพัฒนาให้มีขีดความสามารถในการทำงานที่สูงและหลากหลาย
เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่ทันสมัยที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นมาสำหลรบการทำงานที่สับซ้อน และมีปริมาณมาก เพื่อความรวดเร็วและความแม่นยำ สามารถที่จะประมวลผลข้อมูลที่ได้รับด้วยความเร็วสูงได้ในระยะเวลาอันสัน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แรงงาน เวลา วัสดุ และช่วยในการเก็บรักษาข้อมูลได้เป็นอย่างดี ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ใช้กันอยู่จนกลายเป็นของจำเป็น อย่างเช่น นาฬิกา หรือแม้แต่การวางศูนย์ถ่วงล้อยังอาศัยเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้เกิดความถูกต้องแน่นอน เครื่องวัดสายตาสำหรับการประกอบแว่น ก็อาศัยเครื่องคอมพิวเตอร์ในการตรวจสอบเพื่อความถูกต้องแม่นยำ สำนักงาน ห้างร้าน ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ก็มีเครื่องคอมพิวเตอร์ใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะต่างมีความเห็นว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นความจำเป็นที่จะช่วยในการทำงานและเป็นเครื่องบันทึกข้อมูลที่ช่วยทางด้านความจำได้อย่างดี
หากประมวลความหมายของคำว่า คอมพิวเตอร์ ก็น่าจะให้ความหมายได้ว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือที่ทันสมัย ซึ่งมนุษย์ได้ประดิษฐ์ขึ้นสำหรับการช่วยทำงานที่มีความสลับซับซ้อน คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมืออิเล็กทอนิกส์ที่สามารถทำการประมวลผลคำของข้อมูลได้อย่างอัตโนมัตินับตั้งแต่การป้อนข้อมูล การจำ การคำนวณ การเคลื่อนย้ายข้อมูลและการแสดงผล ด้วยความเร็วสูงในระยะเวลาอันสั้น
2.ประโยชน์ของเครื่องคอมพิวเตอร์
เครื่องคอมพิวเตอร์นับวันยิ่งมีความสำคัญต่อระบบการทำงานในยุคปัจจุบันซึ่งทวีจำนวนของงานมากขึ้นอยู่ตลอดเวลาเป็นอันดับมา ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แรงงาน เวลา และวัสดุอุปกรณ์ที่จะใช้ในการเก็บเอกสารข้อมูล สามารถเก็บรักษาข้อมูลต่าง ๆ ไว้ได้ในระยะเวลาอันยาวนาน ในยุคเทคโนโลยีที่ก้าวไกลนี้ คอมพิวเตอร์จึงมีความสำคัญต่อการทำงานและได้รับการพัฒนาให้ใช้ประโยชน์ได้มากที่สุดซึ่งอาจกล่าวถึงประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ได้ด้งนี้
1. ความรวดเร็ว (SPEED) เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำการประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก ที่มีอยู่ภายในเครื่องในระยะเวลาอันสั้น
2. ความถูกต้อง (ACCURACY) ข้อมูลที่ป้อนเข้าเครื่องได้อย่างถูกต้องจะถูกประมวลผลใน รูปแบบตามคำสั่ง และให้ผลที่ถูกต้องแม่นยำ เป็นที่เชื่อถือไว้วางใจได้
3. ความประหยัด (ECONOMY) เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้รวดเร็วอย่างถูกต้อง ทำให้เกิดความประหยัดทั้งในด้านวัสดุอุปกรณ์ เวลา แรงงาน และค่าใช้จ่ายอื่นที่เกิดขึ้น โดยไม่คาดคิด
4. การเก็บรักษาและการค้นข้อมูล (RETENTION) ข้อมูลที่ได้รับการบันทึกไว้ในเครื่อง คอมพิวเตอร์ จะถูกเก็บรักษาไว้ตลอดไปหากไม่มีการลบข้อมูลนั้นออกจากเครื่อง ถึงแม้ว่าข้อมูลนั้นจะถูกเรียกออกมาใช้ก็ตาม หรือมีการเรียกข้อมูลออกมาใช้เพื่อทำการ แก้ไขและบันทึกทับข้อมูลเดิม
5. การใช้งาน (WORKING) คอมพิวเตอร์สามารถที่จะทำงานได้มากมายหลายด้านแทบทุก สาขาของงาน
3. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
1. เปิดปุ่ม Start ที่เครื่อง หลังจากนั้นเครื่องจะขึ้นหน้าจอแล้วคลิกที่ปุ่ม Start
2. เลื่อนไปที่โปรแกรม
3. เลื่อนเข้าไปยังงานที่เราต้องการทำและหลังจากที่ทำงานเสร็จให้คลิกที่ Close เพื่อปิด โปรแกรม
4.การดูแลและบำรุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์
1. ใช้เครื่องให้ถูกต้องตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในคูมือ
2. ไม่ควรตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ในบริเวณที่มีฝุ่นละอองมาก เพราะฝุ่นละอองจะจะเข้าไป ในตัวเครื่อง ทำให้เครื่องขัดข้อง
3. ไม่ควรตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ในที่ที่ที่ไม่มีแสงแดดส่อง มีความชื้น มีการสั่นสะเทือน เพราะเครื่องคอมพิวเตอร์ต้องการระบายความร้อน และอุปกรณ์ต่าง ๆภายในตัวเครื่อง ชำรุดเสียหายได้ง่าย
4. ไม่ควรนำอาหารเครื่องดื่ม และของเหลวมาวางไว้ใกล้เครื่อง เพราะหากตกหรือหกใส่ เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรหรือทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในเครื่องเสียหาย
5. ควรใช้ผ้าคุมเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อป้องกันฝุ่นละออง
6. เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องควรมีเครื่องสำรองไฟฟ้า เพื่อป้องกันจากไฟดับเพราะอาจ ไฟดับบ่อยครั้งทำให้เครื่องดับโดยที่ยังไม่ได้เปิดเครื่องจะทำให้อุปกรณ์ภายในเครื่อง ชำรุดเสียหาย
7. การปิดเครื่องหลักจากเลิกใช้งาน ไม่ควรปิดเครื่องโดยการกดปุ่ม Power เพื่อปิดเครื่อง ควรปิดเครื่องโดยการ Shut Down
8. ตรวจเช็คเครื่องเป็นประจำ เพื่อให้เครืองอยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา
1. ความหมายและความสำคัญของเครื่องคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ คือ เครื่องมือที่ทันสมัยที่พัฒนาโดยมนุษย์เพื่อช่วยงานของมนุษย์งานเหล่านี้มักเป็นงานที่มีข้นตอนซ้ำ มีปริมาณมาก หรือมีลักษณะสลับซับซ้อนยากเย็นและต้องใช้แรงงานคนมากมาย เมื่อนำคอมพิวเตอร์มาจัดการงานลักษณะดังกล่าว ก็สามารถทำให้งานเสร็จได้รวดเร็ว มีผลลัพธ์ถูกต้องน่าเชื่อถือแรงงานของมนุษย์ผ่อนเบาลงทำให้มีเวลามากขึ้นเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องใช้สำนักงานที่นิยมมากที่สุด และได้เขามามีบทบาทในชีวิตประจำของมนุษย์มากขึ้น เนื่องจากเครื่องคอมพิวเตอร์ได้รับการพัฒนาให้มีขีดความสามารถในการทำงานที่สูงและหลากหลาย
เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่ทันสมัยที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นมาสำหลรบการทำงานที่สับซ้อน และมีปริมาณมาก เพื่อความรวดเร็วและความแม่นยำ สามารถที่จะประมวลผลข้อมูลที่ได้รับด้วยความเร็วสูงได้ในระยะเวลาอันสัน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แรงงาน เวลา วัสดุ และช่วยในการเก็บรักษาข้อมูลได้เป็นอย่างดี ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ใช้กันอยู่จนกลายเป็นของจำเป็น อย่างเช่น นาฬิกา หรือแม้แต่การวางศูนย์ถ่วงล้อยังอาศัยเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้เกิดความถูกต้องแน่นอน เครื่องวัดสายตาสำหรับการประกอบแว่น ก็อาศัยเครื่องคอมพิวเตอร์ในการตรวจสอบเพื่อความถูกต้องแม่นยำ สำนักงาน ห้างร้าน ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ก็มีเครื่องคอมพิวเตอร์ใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะต่างมีความเห็นว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นความจำเป็นที่จะช่วยในการทำงานและเป็นเครื่องบันทึกข้อมูลที่ช่วยทางด้านความจำได้อย่างดี
หากประมวลความหมายของคำว่า คอมพิวเตอร์ ก็น่าจะให้ความหมายได้ว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือที่ทันสมัย ซึ่งมนุษย์ได้ประดิษฐ์ขึ้นสำหรับการช่วยทำงานที่มีความสลับซับซ้อน คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมืออิเล็กทอนิกส์ที่สามารถทำการประมวลผลคำของข้อมูลได้อย่างอัตโนมัตินับตั้งแต่การป้อนข้อมูล การจำ การคำนวณ การเคลื่อนย้ายข้อมูลและการแสดงผล ด้วยความเร็วสูงในระยะเวลาอันสั้น
2.ประโยชน์ของเครื่องคอมพิวเตอร์
เครื่องคอมพิวเตอร์นับวันยิ่งมีความสำคัญต่อระบบการทำงานในยุคปัจจุบันซึ่งทวีจำนวนของงานมากขึ้นอยู่ตลอดเวลาเป็นอันดับมา ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แรงงาน เวลา และวัสดุอุปกรณ์ที่จะใช้ในการเก็บเอกสารข้อมูล สามารถเก็บรักษาข้อมูลต่าง ๆ ไว้ได้ในระยะเวลาอันยาวนาน ในยุคเทคโนโลยีที่ก้าวไกลนี้ คอมพิวเตอร์จึงมีความสำคัญต่อการทำงานและได้รับการพัฒนาให้ใช้ประโยชน์ได้มากที่สุดซึ่งอาจกล่าวถึงประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ได้ด้งนี้
1. ความรวดเร็ว (SPEED) เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำการประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก ที่มีอยู่ภายในเครื่องในระยะเวลาอันสั้น
2. ความถูกต้อง (ACCURACY) ข้อมูลที่ป้อนเข้าเครื่องได้อย่างถูกต้องจะถูกประมวลผลใน รูปแบบตามคำสั่ง และให้ผลที่ถูกต้องแม่นยำ เป็นที่เชื่อถือไว้วางใจได้
3. ความประหยัด (ECONOMY) เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้รวดเร็วอย่างถูกต้อง ทำให้เกิดความประหยัดทั้งในด้านวัสดุอุปกรณ์ เวลา แรงงาน และค่าใช้จ่ายอื่นที่เกิดขึ้น โดยไม่คาดคิด
4. การเก็บรักษาและการค้นข้อมูล (RETENTION) ข้อมูลที่ได้รับการบันทึกไว้ในเครื่อง คอมพิวเตอร์ จะถูกเก็บรักษาไว้ตลอดไปหากไม่มีการลบข้อมูลนั้นออกจากเครื่อง ถึงแม้ว่าข้อมูลนั้นจะถูกเรียกออกมาใช้ก็ตาม หรือมีการเรียกข้อมูลออกมาใช้เพื่อทำการ แก้ไขและบันทึกทับข้อมูลเดิม
5. การใช้งาน (WORKING) คอมพิวเตอร์สามารถที่จะทำงานได้มากมายหลายด้านแทบทุก สาขาของงาน
3. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
1. เปิดปุ่ม Start ที่เครื่อง หลังจากนั้นเครื่องจะขึ้นหน้าจอแล้วคลิกที่ปุ่ม Start
2. เลื่อนไปที่โปรแกรม
3. เลื่อนเข้าไปยังงานที่เราต้องการทำและหลังจากที่ทำงานเสร็จให้คลิกที่ Close เพื่อปิด โปรแกรม
4.การดูแลและบำรุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์
1. ใช้เครื่องให้ถูกต้องตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในคูมือ
2. ไม่ควรตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ในบริเวณที่มีฝุ่นละอองมาก เพราะฝุ่นละอองจะจะเข้าไป ในตัวเครื่อง ทำให้เครื่องขัดข้อง
3. ไม่ควรตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ในที่ที่ที่ไม่มีแสงแดดส่อง มีความชื้น มีการสั่นสะเทือน เพราะเครื่องคอมพิวเตอร์ต้องการระบายความร้อน และอุปกรณ์ต่าง ๆภายในตัวเครื่อง ชำรุดเสียหายได้ง่าย
4. ไม่ควรนำอาหารเครื่องดื่ม และของเหลวมาวางไว้ใกล้เครื่อง เพราะหากตกหรือหกใส่ เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรหรือทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในเครื่องเสียหาย
5. ควรใช้ผ้าคุมเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อป้องกันฝุ่นละออง
6. เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องควรมีเครื่องสำรองไฟฟ้า เพื่อป้องกันจากไฟดับเพราะอาจ ไฟดับบ่อยครั้งทำให้เครื่องดับโดยที่ยังไม่ได้เปิดเครื่องจะทำให้อุปกรณ์ภายในเครื่อง ชำรุดเสียหาย
7. การปิดเครื่องหลักจากเลิกใช้งาน ไม่ควรปิดเครื่องโดยการกดปุ่ม Power เพื่อปิดเครื่อง ควรปิดเครื่องโดยการ Shut Down
8. ตรวจเช็คเครื่องเป็นประจำ เพื่อให้เครืองอยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)