วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2553

การลดน้ำหนัก

-บริโภคข้าวหรือแป้งได้ตามปกติ แต่ควรลดปริมาณลงจากเดิม 1 ใน 3 ส่วน

-ให้บริโภคเนื้อปลา ไข่ขาว เต้าหู้และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองทุกวัน

-หลีกเลี่ยงอาหารทอดหรือผัด ให้เปลี่ยนมาเลือกอาหารที่เตรียมโดยการต้ม นึ่ง ย่าง แทน

-หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว อย่างเช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม ครีมเทียม แนะนำให้บริโภคน้ำมันจากรำข้าว ถั่วเหลือง และเมล็ดทานตะวัน

-ควรดื่มนมพร่องมันเนย วันละ 1-2 แก้ว หากดื่มนมไม่ได้ให้ดื่มนมถั่วเหลืองแทน

-งดการบริโภคน้ำหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้ที่หวานจัด เหล้า เบียร์ และไวน์

- งดรับประทานอาหารระหว่างมื้อ

- ลดการบริโภคเกลือ อาหารหมักดอง อาหารเค็ม

-ควรออกกำลังกายอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง/สัปดาห์

ที่มา http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=424&contentID=55085

วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2553

การเพาะเมล็ดมะละกอให้งอกเร็วขึ้น

วันนี้จะเป็นเกล็ดความรู้เรื่องการเพาะเมล็ดมะละกอให้งอกเร็วขึ้น ต่อจากเรื่อง เก็บเมล็ดพันธุ์มะละกอไว้ปลูกเอง
มีวิธีการง่ายๆคือ
1. เอาเมล็ดมะละกอแช่น้ำไว้ประมาณ 12 ชั่วโมง
2. จากนั้นให้เอาแช่ในน้ำอุ่น(ไม่ใช้น้ำร้อนนะ)แช่ไว้ 1 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นการงอกของเมล็ด

ที่มา เขียนเอง

วันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2553

เก็บเมล็ดพันธุ์มะละกอไว้ปลูกเอง

เทคนิคเก็บเมล็ดพันธุ์มะละกอไว้ปลูกเอง
1 เลือกต้นพันธุ์ที่ดีที่สุด
2. เอากระดาษไปครอบดอกที่ยังตูมอยู่รอให้มันผสมพันธุ์เสร็จแล้วเป็นลูกเล็กๆแล้วเอาออก
3. เมื่อมะละกอสูกแล้วให้เก็บเมล็ดพันธุ์มาแล้วให้ล้างเอาเมืิอกออกแล้วผึ่งลมให้แห้ง (ห้ามโดนแดดเด็ตขาด)
4. เก็บเมล็ดพันธุ์มะละกอใส่ภาชนะปิดสนิทเก็บไว้ในตู้เย็น จะเก็บได้นานประมาณ 1 ปี

ที่มา เขียนเอง

บทความต่อไปเป็นเรื่องการเพาะเมล็ดมะละกอให้งอกเร็วขึ้น

วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2553

ซื้อปูทะเล

- ปูทะเลสด จะมีสีเขียวเข้ม อ้วน หนัก ก้ามใหญ่ ตาใส หงายท้องดู จะแข็งกดไม่ลง ถ้าเป็นปูตัวเมีย ฝาปิดหน้าอกจะใหญ่ ส่วนตัวผู้ฝาปิดหน้าอก จะเล็ก ปูตัวผู้เนื้อจะมากกว่าตัวเมีย

- ปูทะเล ถ้าจะทำอาหารให้อร่อย ควรซื้อตอนยังเป็นๆ อยู่ วิธีทดสอบว่าปูยังเป็น อยู่หรือเปล่า ให้ลองแหย่ลูกตาปูดู ถ้ายังกระดุกกระดิกอยู่ แสดงว่ายังไม่ตาย ส่วนมากไม่นิยมใช้ปูตาย เพราะเนื้อจะน้อยกว่าปูเป็นๆ

- ซื้อปูไข่ วิธีทดสอบว่ามีไข่หรือไม่มีไข่ ต้องใช้นิ้วดีดกระดองจะมีเสียงแน่นทึบ ถ้าเป็นเสียงโปร่งจะไม่มีไข่
ที่มา http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=424&contentID=53123

วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2553

แก้อาการคอเคล็ด

-บีบนวดคลายกล้ามเนื้อลงบนแนวของกล้ามเนื้อที่รู้สึกปวดเมื่อย หรือนอนราบ เพื่อให้กล้ามเนื้อคอได้พัก

-ใช้กระเป๋าน้ำร้อนหรือผ้าชุบน้ำอุ่น ประคบบริเวณกล้ามเนื้อต้นคอที่เคล็ด ทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที แล้วนวดเบาๆตรงบริเวณคอ เพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัว

-ใช้มือช่วยดันศีรษะไปในทิศทางที่เกิดอาการตึงช้าๆ จนรู้สึกตึงเล็กน้อย ดันค้างไว้ประมาณ 10-15 วินาที ทำซ้ำ 5-10 ครั้ง จนรู้สึกว่าอาการทุเลาลง

-รับประทานยาจำพวกคลายกล้ามเนื้อ คลายเส้นประสาท เพื่อช่วยให้อาการดีขึ้น

ที่มา http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=424&contentID=52418

วันอังคารที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2553

ขจัดรังแค

รังแค เกิดจากเซลล์ของหนังศรีษะที่มีการแบ่งตัวมากเกินไป ดังนั้นเซลล์ผิวหนังศรีษะจะหลุดล่อนออกมาเป็นแผ่น ขุย ติดอยู่ตามศรีษะ เส้นผม บางคนอาจมีรังแคมาก บางคนอาจมีรังแคน้อยหรือไม่มีเลย ซึ่งหนังศรีษะที่มีรังแคจะมีอาการคัน และมีกลิ่นเหม็น หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา อาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของผมร่วงได้

สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องรังแค ให้นำว่านหางจระเข้ปอกเปลือก เอาแต่เนื้อมาผสมกับน้ำสะอาด คั้นจนเป็นฟองคล้ายแชมพู จากนั้นนำมานวดให้ทั่วศรีษะทิ้งไว้ประมาณ 1/2 - 1 ชั่วโมง แล้วล้างออก สระผมตามปกติ

ที่มา http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&contentId=51076&categoryID=424

บรรเทาโรคเข่าเสื่อม

โรคเข่าเสื่อม เป็นภาวะที่กระดูกอ่อนของข้อเข่าสึกหรอ ฉีกขาด จนไม่สามารถหล่อลื่นข้อเข่าให้ใช้งานเป็นปกติได้ บางครั้งอาจจะมีหมอนรองกระดูกฉีกขาดร่วมด้วย เมื่อกระดูกอ่อนสึกหรอจนถึงกระดูกแข็ง จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดเข่าเวลาลงน้ำหนักเข่าขณะเดิน หรือ ขึ้นลงบันได

คนโดยทั่วไปอาจรู้สรรพคุณของใบโหระพา คือ ช่วยย่อยอาหาร แก้อาการจุกเสียด
แน่นท้อง หรือนำมาเป็นน้ำมันหอมระเหย แต่ยังมีสรรพคุณมากกว่านั้น คือ สามารถรักษาโรคเข่าเสื่อมได้

โดยใช้โหระพาทั้งต้นไม่ต้องเด็ดรากทิ้งกะพอประมาณ จากนั้นนำไปล้างให้สะอาด ตำพอละเอียดผสมเหล้าขาว 40 ดีกรี เล็กน้อยคนให้เข้ากัน นำไปตั้งไฟแค่พอร้อน ทิ้งไว้ให้อุ่น นำไปพอกเข่าทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ควรทำวันละ 1-2 ครั้ง

ทีมา http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=424&contentID=51081